หมากข้าวติดมือ Posted in วิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรม หมากข้าวติดมือ หมากข้าวติดมือ หมากข้าวติดมือ เป็นการละเล่นอย่างหนึ่งของหนุ่มสาวชาวชนบทในท้องที่จังหวัดนครพนม เป็นการละเล่นที่มีข้อกำหนดให้เล่นเฉพาะในงานศพขณะที่ศพยังอยู่ในบ้านเท่านั้น ปัจจุบันนี้การละเล่น หมากข้าวติดมือ กำลังจะสูญหายไป เนื่องจากความนิยมในหมู่คนหนุ่มสาวลดน้อยลง เพราะมีการละเล่นอย่างอื่นเข้ามามีอิทธิพลมากกว่า ความเป็นมา การละเล่นหมากข้าวติดมือไม่ปรากฏหลักฐานว่าเริ่มเล่นกันตั้งแต่สมัยใด และค้นหาคำตอบไม่ได้ว่าใครเป็นคนต้นคิดการละเล่นประเภทนี้ขึ้นมา แต่ชาวบ้านทั่วไปก็ได้เห็นหนุ่มสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานมานานแล้ว เมื่อประมาณ 50 ปีก่อน การเล่นหมากข้าวติดมือ ถือได้ว่าเป็นการละเล่นที่สร้างความสนุกสนาน ประสานความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาว และเป็นการเล่นที่ช่วยลดความโศกเศร้าในงานศพลงได้บ้าง คนในสมัยก่อนจะเชื่อเรื่องภูตผีปีศาจมาก การไปร่วมงานศพของชาวบ้านจะมีการนัดแนะไปกันเป็นกลุ่มทั้งหนุ่มและสาว ขากลับก็จะกลับพร้อมกันจะได้ไม่กลัวเมื่อไปถึงบ้านศพซึ่งชาวบ้านจะเรียกว่า เฮือนดี หนุ่มสาวก็จะช่วยกันทำสำรับกับข้าวช่วยเจ้าภาพเพื่อเลี้ยงแขก พอเสร็จภาระหน้าที่แล้วจะเป็นช่วงพบปะกันระหว่างหนุ่มสาวโดยมีการละเล่นเป็นสื่อกลาง เช่น เกมการเล่นหมากข้าวติดมือ หมากเสียดพลูยา หมากคล้องช้างและหมากเสือกินหมู เป็นต้น ทุกเกมการละเล่นจะมีกฎกติกา หรือข้อสัญญาการลงโทษฝ่ายแพ้สุดแท้แต่จะกำหนด เช่น เขกเข่า ให้ฟ้อน ดื่มเหล้า ร้องเพลง ดื่มน้ำเปล่าทีละขันเป็นต้น บางทีอาจมีข้อสัญญาให้เปิดเผยถึงความในใจ เรื่องความรักว่ารักใครต้องตอบให้คณะผู้ชนะทราบ จึงทำให้หนุ่มสาวในสมัยก่อนเกิดรักใคร่ ชอบพอกันเพราะกิจกรรมการละเล่นก็มี รายละเอียดเกี่ยวกับการเล่นหมากข้าวติดมือ จำนวนผู้เล่นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปโดยไม่จำกัดจำนวนแต่ต้องแบ่งผู้เล่นเป็น 2 ฝ่าย จะแยกชายหญิงหรือคละกันก็ได้ ที่นิยมกันมาก็คือ การแบ่งฝ่ายหนุ่มฝ่ายสาว อุปกรณ์การเล่น ข้าวเหนียวนึ่ง นำมานวดให้เหนียวจนติดมือเหมือนกาวโดยใช้มือทั้ง 2 ข้างคลึงให้เป็นก้อนเล็ก ๆ ขนาดเท่าปลายนิ้วมือ 1 ก้อน วิธีการเล่น เมื่อแบ่งฝ่ายเล่นเป็น 2 ฝ่ายแล้วให้ตกลงกันว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้เล่นก่อน บางครั้งฝ่ายชายจะให้เกียรติฝ่ายหญิงเล่นก่อน ฝ่ายได้เล่นก่อนจะให้คนหนึ่งถือข้าวเหนียวไว้บนไว้บนฝ่ามือหงายมือขึ้นให้ทุกคนเห็นก้อนข้าวเหนียวชัดเจน ผู้เล่นอีกคนหนึ่งใช้มือทั้ง 2 ข้างครอบปิดที่มือของผู้ที่ถือก้อนข้าวเหนียว แล้วทั้ง 2 คน พยายามกำมือไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามทราบได้ว่าก้อนข้าวเหนียวอยู่ที่มือใครหรือมือข้างใด ผู้เล่นก็กำมือไปหาคนที่ 3 แสร้งถ่ายเทก้อนข้าง เหนียวให้เหมือนเดิม อาจมีก้อนข้าวอยู่กับคนแรกก็ได้ เป็นการอำพรางให้แนบเนียนที่สุดทำไปเรื่อยจนครบคนทั้งทีม เมื่อถ่ายเทก้อนข้าวครบทุกคนแล้วฝ่ายเล่นก็ทายฝ่ายตรงข้ามว่าก้อนข้างเหนียวอยู่ที่ใคร และอยู่มือข้างใด อาจร้องเพลงเย้ยกัน หรือพูดผญาแทรกให้สนุกสนานก็ได้ ฝ่ายตอบก็ต้องสังเกต พิจารณาให้แน่ชัดทั้งสีหน้าท่าทีรวมถึงสังเกตตั้งแต่ขั้นถ่ายเทก้อนข้าวแต่ช่วงแรก ๆ ด้วย เมื่อมั่นใจก็ตอบว่าอยู่ที่ใคร วิธีการประกอบของผู้เล่น แต่ละคนที่กำมืออยู่อาจให้อากัปกิริยาแสดงให้ผู้ที่จะตอบไขว้เขวหรือหลงทางก็ได้ กติกา เมื่อฝ่ายตอบชี้ได้ถูกต้องก็จะเปลี่ยนไปเป็นฝ่ายเล่นและทำโทษฝ่ายที่แพ้ตามที่ตกลงไว้ ถ้าตอบไม่ถูกก็ถูกทำโทษ ฝ่ายเล่นก็เล่นต่อไปหรือจะตกลงเปลี่ยนข้างเล่นฝ่ายละเกมก็ได้ โอกาสที่จะเล่น เล่นในงานศพที่ยังอยู่ที่บ้านเท่านั้น การกำหนดรอบหนึ่ง ๆ ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที ประโยชน์และข้อคิดที่ได้จากการละเล่น เพื่อให้เกิดความสนุกสนานลดความเศร้าโศกในงานศพลงบ้าง เพื่อให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ ให้ผู้เล่นได้ฝึกการสังเกต และมีไหวพริบ ให้รู้จักยอมรับและปฏิบัติตามกฎกติกาที่สังคมกำหนด สร้างความคุ้นเคยระหว่างหนุ่มสาวและสมาชิกใหม่ ส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมอันดีของชุมชนให้คงอยู่สืบไป ให้เป็นผู้รู้จักคิดหาเหตุผลในข้อห้ามเกี่ยวกับการเล่นและการกำหนดให้เล่นในงานศพด้วยเหตุผลอะไร หมากข้าวติดมือที่ถือว่าเป็นการละเล่นมาแต่ครั้งโบราณปัจจุบันความนิยมลดลงจนไม่มีผู้สืบทอดให้เห็นอีกแล้ว จึงเป็นที่น่าเสียดายที่การละเล่นอันทรงคุณค่า ซึ่งคนโบราณได้คิดค้นตามภูมิปัญญาไว้ให้ลูกหลานกำลังจะเหลือเพียงตำนานเท่านั้น แนะแนวเรื่อง หมากเสือกินหมู →← หมากเสียดพลูยา www.nakhonpanom.com Design by ThemesDNA.com Scroll to Top