ศาสนา พิธีกรรม ความเชื่อ

 


ศาสนา   พิธีกรรม   ความเชื่อ                                    ชาวนครพนมนับถือศาสนาพุทธเป็นส่วนมากมีบางส่วนนับถือศาสนาคริสต์และซิกส์ ส่วนลัทธิอื่นไม่มีให้เห็นเด่นชัด   มีรายละเอียดอื่นเป็นองค์ประกอบสำคัญดังต่อไปนี้ คือ                        ศาสนาพุทธ                        เป็นศาสนาที่ชาวนครพนมส่วนมากนับถือและในศาสนาพุทธนี้มี 2 นิกาย คือ   มหานิกาย 1 ธรรมยุติกนิกาย   1   ในการปกครองและบริหารงานทั้งสองนิกายเหมือนกัน                         –   พระสงฆ์ในจังหวัดนครพนมทุกนิกายร่วมกันพัฒนาชาวนครพนมทางด้านกาย   วาจา   ใจ   ให้มีคุณธรรมจริยธรรมทั้งยังเป็นผู้นำในการพัฒนาสภาพแวดล้อมของท้องที่ต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์                        ศาสนาคริสต์   เป็นศาสนาที่เข้ามาเผยแพร่ในเขตจังหวัดนครพนม   เมื่อปี   พ.ศ.   2428   เกิดจากการรวมกลุ่มของชาวบ้านคำเกิ้มเป็นคริสตังใหม่   และคริสตังสำรองที่อยู่ห่างจากตัวจังหวัดนครพนมไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ   ประมาณ   3-4 กิโลเมตร   และในหมู่บ้านที่มีครอบครัวไม่นับถือคริสตัง   ประมาณ   3-4   ครอบครัว   ได้มีคณะบาทหลวงได้เดินทางเข้ามาพบโดยมีคุณพ่อโปรโดม   คุณพ่อซาเวียร์   คุณพ่อดาแบง   ได้ตกลงกันจัดสร้างวัดไว้ถือศีลล้างบาปให้แก่ชาวบ้านคำเกิ้มตั้งแต่นั้นรวมทั้งสิ้น 114   ปี และบาทหลวงองค์แรกที่เป็นองค์อุปถัมภ์ คือ   คุณพ่อซาเวียร์   ต่อมาท่านได้เปิดขยายวัดหลายพื้นที่ตามหมู่บ้านต่าง ๆ ในจังหวัดดังต่อไปนี้                        เมื่อปี พ.ศ. 2429 หมู่บ้านขามเฒ่า   หมู่บ้านเชียงยืน   พ.ศ. 2430   หมู่บ้านสองคอน   หมู่บ้านหนองแสง   หมูบ้านซอง พ.ศ. 2431   หมู่บ้านนาราชควายน้อย   หมู่บ้านนาใน พ.ศ. 2432   บ้านนามน พ.ศ. 2435 หมู่บ้านหนองคา                        ในการขยายพื้นที่ในการเผยแพร่ศาสนาบาทหลวงอุปถัมภ์ ได้เพิ่มจำนวนวัดในแต่ละชุมชนและจำนวนคริสตังใหม่   และคริสตังสำรองมากมายจนถึงปัจจุบัน                        ศาสนาซิกส์   ประมาณปี พ.ศ. 2430   ได้มีชาวอินเดียเข้าอาศัยและค้าขายในจังหวัดนครพนม ประมาณ   8-10   ครอบครัว   ในการค้าขายของชาวอินเดียนั้นเป็นประเภทผ้าชนิดต่าง ๆ   ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2501-2504   ได้มีผู้นำศาสนาซิกส์ จังหวัดอุบลราชธานีได้มาก่อสร้าง คุรุสิงสภา  ไว้สำหรับสวดและสั่งสอนให้แก่ผู้นับถือศาสนาแต่ในปัจจุบันในคุรุสิงสภาไม่มีผู้นำสวดสั่งสอนเพราะจำนวนผู้นับถือศาสนาน้อยเหลืออยู่ประมาณ 2 ครอบครัวและได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธแล้ว   ผู้นำสวดจึงได้อพยพกลับจังหวัดอุบลราชธานี