ตำนาน”พญาศรีสัตตนาคราช” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเมืองนครพนม !!

เผ่าพันธุ์ของ”พญามุจลินท์นาคราช” คือ “พญานาค 7 เศียร” ได้สืบสายพันธุ์มาจนถึง “พญาศรีสัตตนาคราช (นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล)” เชื่อกันว่าเป็น”กษัตริย์แห่งพญานาคฝั่งลาว” ส่วนฝั่งไทยนั้นมี “พญาศรีสุทโธนาคราช (นาคาธิบดีสีสุทโธ)” เป็น “กษัตริย์พญานาคฝั่งไทย”!! แต่เป็น “พญานาคเศียรเดียว” ซึ่งเล่ากันว่า สองราชาพญานาคคู่นี้เป็นสหายซี้ปึกกัน!!

เรื่องราว”ราชาแห่งนาค”ทั้งสองตนนี้ “หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ” เกจิอาจารย์ชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย เคยเล่าไว้ดังนี้.. ในผืนน้ำของประเทศไทยเรา มีพญานาคราชเป็นใหญ่นามกรว่า “พญาศรีสุทโธฯ” ชอบการจำศีลบำเพ็ญเพียร และปฏิบัติธรรม นิสัยอ่อนโยนมีเมตตา ไม่ชอบการต่อสู้ เข้าข่ายเป็นพญานาคผู้น่ารักนับถือ ส่วนฝั่งลาวนั้น มี “พญาศรีสัตตนาคราช” เป็นใหญ่เหนือพญานาคทั้งปวง ที่ทรงฤทธิ์มีอำนาจเหนือกว่าพญานาคทั้งหลายในสองแผ่นดินไทย-ลาว ถึงท่านเป็นพญานาคที่มีฤทธิ์เดช แต่ก็ชอบการจำศีลภาวนา และประพฤติปฏิบัติธรรมเหมือน”พญาศรีสุทโธนาคราช” มีตำนานกล่าวว่าท่านชอบมาที่วัดพระธาตุพนมเหมือนกัน จนถึงกับมีการทำ MOU ให้พันธะสัญญาแก่กันว่า หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการความช่วยเหลือ ก็จะช่วยกันอย่างเต็มที่เต็มกำลังความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้อยใหญ่ประการใด..!!

” พญาศรีสัตตนาคราช” มีความเด่นสง่าเหนือกว่าใครเพราะมี 7 เศียร ลำตัวเดียว ถือได้ว่าเป็น”ตระกูลพญานาค”ที่สืบสายพันธุ์มาแต่ครั้งพุทธกาล มีความใกล้ชิดพระพุทธองค์ และพระพุทธศาสนา จนอาจถือว่าเป็นต้นตระกูลแห่งพญานาคทั้งหลายทั้งปวง

หลวงปู่คำพันธ์ท่านยังได้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจอีกว่า “ส่วนใดที่อยู่ใกล้ต้นน้ำลำธาร หรือหากมีพิธีกรรมอันใดเกิดขึ้น ให้อัญเชิญบอกกล่าวแก่เหล่าพญานาค พิธีกรรมนั้นจะศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก..” จึงไม่แปลกใจทำไม!! คนในลุ่มน้ำโขงทั้งสองฟากฝั่งไทย-ลาว ถึงเคารพศรัทธาต่อองค์ญานาคเป็นนักเป็นหนา คงมาจากเหตุผลที่หลวงปู่ท่านเมตตา บอกกล่าวข้างต้นให้ลูกหลานลูกแม่น้ำโขง หมั่นประพฤติปฏิบัติสืบกันมานั่นเอง..

ต้นกำเนิด”พญาศรีสัตตนาคราช” ริมฝั่งแม่น้ำโขง แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัด ได้รับการเปิดเผยจาก นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ. ว่า เนื่องจากการเติบโตของการท่องเที่ยวในจังหวัดที่มีอย่างต่อเนื่องเพราะมีสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย ทั้งที่เป็นโบราณสถาน โบราณวัตถุ สถานที่รำลึกประวัติศาสตร์ที่สำคัญ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รวมถึงที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวนครพนม โดยเฉพาะ”เส้นทาง 3 ที่สุด!!” ของนครพนม ประกอบไปด้วย”สวยที่สุด” คือ..สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 นครพนม – คำม่วน “งามที่สุด” ในเรื่องวิวทิวทัศน์ริมสองฝั่งโขง และ “ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด” อย่างองค์พระธาตุพนม แต่อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพ ในด้านการท่องเที่ยวเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว เข้ามาในพื้นที่ให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะช่วงนี้ประตูอาเซียนเปิดอ้าแล้วนั้นหมายถึงเม็ดเงิน ที่จะก่อให้เกิดเป็นรายได้กับพี่น้องประชาชนจำนวนมหาศาล อันจะเป็นการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน!!