จิตรกรรม นครพนม
จิตรกรรม จิตรกรรมฝาผนัง มักจะปรากฏอยู่ภายในโบสถ์ และด้านหน้าโบสถ์มีบางแห่งอยู่ที่ศาลาการเปรียญ ลักษณะของจิตรกรรมมักจะเขียนตามความนิยมในท้องถิ่นสีที่ใช้เป็น สีฝุ่น มีวรรณะเย็น เช่น สีคราม เขียว น้ำตาล และดำ ส่วนภาพที่เขียนมักจะเป็นเรื่อง พุทธประวัติ รามเกียรติ์ และพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ที่ปรากฏภาพจิตรกรรมฝาผนังได้แก่
วัดหัวเวียงรังษี บ้านพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม
วัดพุทธสีมาราม บ้านฝั่งแดง อำเภอธาตุพนม
วัดโพธิ์คำ ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม
วัดธาตุประสิทธิ์ บ้านนาหว้า อำเภอนาหว้า
จิตรกรรมฝาผนังวัดโพธิ์คำ บ้านน้ำก่ำ ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม วัดโพธิ์คำเป็นวัดเก่าแก่มีมาพร้อมกับบ้าน้ำก่ำ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2418 แต่สิมวัดเพิ่งสร้างเสร็จ ในปี พ.ศ. 2476 โดยช่างชาวญวน สิมที่วัดเป็นสิมก่อผนัง หันหน้าออกสู่แม่น้ำโขง ด้านหน้ามีประตู 1 ช่อง ทางขึ้นมีบันได ราวบันไดทำเป็นตัวนาคทั้ง 2 ด้าน ด้านข้างมีหน้าต่างด้านละ 2 บาน และเสริมเสริมด้วยหน้าต่างช่องลมมีลูกกรง ตรงช่วงห้องที่ 3 ของตัวอาคาร หน้าบันมีปูนปั้นเป็นลวดลายเครือเถา กึ่งกลางมีภาพปูนปั้น พระพุทธรูประบายสีเฉพาะตัวลายและองค์พระพุทธรูป
ภายในสิมมีรูปแต้มเรื่องพุทธประวัติ สุริยวงศ์ พระมาลัย พระป่าเลไลยก์ รามเกียรติ์ โดยช่างแต้ม ชื่อ พ่อลี ชะปราณ และนายบุญปัน น้องชาย ใช้เวลาวาดอยู่ประมาณ ปีเศษ
ภายในตัวอาคารสิม บนผนังทั้งสี่มีภาพแต้มซึ่งมองดูคล้ายกับว่าช่างแต้มได้วาดภาพลงบนผืนผ้าพระเวส 1 ผืน ต่อกันทางแนวยาว โดยดึงผืนผ้าผืนบนขึ้นให้ถึงยอดสุดของฝาผนังแล้วทิ้งลงมาให้ตึงไม่ให้เห็นส่วนล่างสุดของผืนผ้าที่ 2 ให้ทิ้งตัวลงมาสุดเพียงกึ่งกลางช่องหน้าต่าง ทำให้พื้นที่ของผนังส่วนล่างมีเนื้อที่ว่างเหลืออีกเป็นจำนวนมาก
ผืนผ้าทั้งสองที่เรียงต่อกันตามแนวยาวนั้นจะมีกรอบหรือแถบคั่นทั้งขอบบนกลางและขอบล่างสุด กรอบลายคั่นบนสุดจะเป็นลายเครือ ตรงกลางจะเป็นลายเปลว ล่างสุดจะเป็นลายลูกฟักก้ามปู
เมื่อพิจารณาภาพส่วนรวมแล้ว จากฐานพื้นอันเป็นหัตถบาทเชื่อมต่อกับกำแพงหรือพื้นผนังขึ้นไปจรดฮูปแต้มจะมีอาณาบริเวณที่ปล่อยว่างไว้เป็นจำนวนไม่น้อย ผิดกับสิมอื่นโดยทั่วไปที่มีฮูปแต้ม หรือผิดไปจากฮูปแต้มของช่างหลวงส่วนกลาง ซึ่งเนื้อที่ของภาพจะเริ่มตั้งแต่ขอบด้านล่างของหน้าต่างไล่เรื่อยขึ้นไปทางด้านบนจรดส่วนเหนือสุดของผนังที่เชื่อมต่อกันกับเพดาน
บรรยากาศของฮูปแต้มในภาพรวมที่ผนังจะมีความโปร่งใส สุกสว่าง สะอาด ฉากหลังหรือพื้นภาพที่เปรียบเสมือนกับผืนผ้าสีขาวที่โปร่งใสของจอหนังตะลุง บนจอปรากฏภาพของตัวละครซ้อนประสานกลมกลืนกันไปกับฉากหลังในความกลมกลืนก็พอจะมองเห็นว่าเป็นภาพตอนใด จากเรื่องใด เป็นภาพแต้มที่ตัวละครมิได้ลอยโดดเด่นอย่างโจ่งแจ้ง รุนแรงเหมือนกับภาพจิตรกรรมฝาผนังส่วนกลางสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ช่างแต้มจะทำการล้วงพื้นฉากหลังด้วยสีเข้มจนบางแห่งเป็นสีดำ ทำให้ตัวละครลอนเด่นออกมาจากฉากหลังอย่างเห็นได้ชัด เป็นเหตุให้เกิดเป็นมิติที่ล้ำลึกไกลกว่าคุณลักษณะ หรือวัตถุประสงค์เดิมของานจิตรกรรมฝาผนังไทยที่ปรากฏแต่เพียง 2 มิติ ซึ่งจะมีผลให้ระนาบของพื้นผนังยังรักษาคุณค่าของความเป็นปึกแผ่น อันเป็นโครงสร้างหลักทางงานสถาปัตยกรรม
บนผนังด้านรีทั้งสอง ส่วนที่เห็นเด่นชัดเป็นภาพของโขดหิน ภูเขา เขามอ ต้นไม้สีเขียวคล้ำ โขดหินที่มีรูปฟอร์มคล้ายกับอักษร ภ รูปลักษณะของภาพต้นไม้ภูเขาที่ปรากฏตามจุดต่าง ๆ จะเป็นรูปทรงที่มีการออกแบบเน้นหรือเค้นคุณค่าสาระของความรู้สึกเป็นป่า ต้นไม้ และภูเขาได้เป็นอย่างดีเยี่ยม
สี่ที่ใช้สำหรับฮูปแต้มของวัดโพธิ์คำ สีเอกที่ครอบคลุมอาณาบริเวณของเครื่องทางกษัตริย์มี ชฎา เป็นต้น สีรงค์ที่ใช้สีเหลืองนี้เป็นสี่ที่ใช้แทนทองคำเปลวอันเป็นลักษณะรวมของภาพแต้มในกลุ่มลุ่มน้ำโขงและแถบสีอีสานกลาง นอกจากนั้นก็มีสีดำ น้ำเงิน(คราม) เขียว และส้ม
การใช้สีที่แปลกออกไปของวัดโพธิ์คำ ก็คือไม่ปรากฏมีการใช้สีแดง หรือสีน้ำตาล สีที่ใกล้เคียง ได้แก่สีแดง หรือสีส้มใสๆ อาจเป็นสีน้ำหมากซึ่งเป็นสีที่มีความโปร่งใส
www.nakhonpanom.com