ประติมากรรม


ประติมากรรม

ประติมากรรมวัดพระธาตุพนม
                        งานประติมากรรมที่องค์ธาตุชั้นล่าง   ทั้ง   4   ด้าน   ส่วนใหญ่จะเป็นภาพจำหลักรูปกษัตริย์ทรงม้าหรือทรงช้าง   อาจประทับนั่งหรือยืน   ลวดลายที่แวดล้อมเป็นลวดลายกนกบ้างหรือลายเครือเถาแบบลายผักกูด   แต่ลวดลายจะผิดแยกกันคือ   ทั้ง 3  ด้าน   มีลวดลายกนก   ที่ละม้ายคล้ายคลึงกัน    แต่ด้านเหนือจะเป็นลวดลายเครือเถาที่งดงามและมีฝีมือช่างสูง   เป็นการแกะสลักบนอิฐเผา   นูนต่ำ   ที่สวยงามและมีความสมบูรณ์เพียงแห่งเดียวที่เหลืออยู่
                        ลวดลายกนก   เป็นลายที่จำหลักด้วยช่างฝีมือสูง    ซึ่งอาจเป็นศิลปินชั้นครู   ลักษณะการจัดเถาจัดจังหวะตลอดจนการมากตัวกนก   และการปิดม้วนกลับของยอดกนกดูอ่อนช้อยงดงามคล้ายกับลายกนกปูนปั้นสมัยทวารดีในภาคกลาง   เช่นที่นครปฐมและคูบัว   (ราชบุรี)
                        งานประติมากรรมทั้ง 4 ด้าน   ของพระธาตุพนมจะเห็นว่าลักษณะรูปทรงของช้างที่กำลังเดิน   และม้าที่กำลังวิ่งดูมีชีวิตชีวาและเป็นธรรมชาติมาก   ส่วนรูปคนทั้งกษัตริย์   และบริวารมีลักษณะเตี้ยล่ำสัน   เอาไว้ผมมวยด้านหลังคล้ายพราหมณ์ไม่สวมเสื้อ   ซึ่งแต่ละรูปไม่มีเครื่องประดับ   หน้าตาเป็นชนพื้นเมือง
                        สำหรับประตูทั้ง   4   ด้านนั้นเหนือประตูจัดเป็นซุ้มลายโค้ง   เป็น   3   โค้งติดต่อกันปลายซุ้มมีรูปสิงห์ยืนทั้ง   2   ด้าน    ภายในของซุ้มประตูแต่ละด้านข่างแกะสลักภาพประดับ
                        ลวดลายสลักเหล่านี้สันนิษฐานว่า   น่าจะเป็นต้นแบบของงานประติมากรรมทางศาสนาในภาคอีสานรุ่นต่อ ๆ มา   เช่น   งานปูนปั้นประดับองค์พระธาตุแห่งที่สร้างขึ้นในสมัยของพระอาจารย์สีทัตถ์   สุวรรณมาโจ    พระภิกษุที่มีชื่อเสียงองค์หนึ่งของชาวอีสาน
                        ประติมากรรมนูนต่ำ   บนกำแพงแก้วด้านนอกที่วัดพระธาตุท่าอุเทนลักษณะเป็นศิลปะพื้นบ้านอีสานนั้นเป็นเรื่องราวได้แก่   สุภาษิต   คำพังเพย   นรกสวรรค์   ดังตัวอย่าง
                        ภาพที่ 1 – ด้านขวามือสุด   หมายถึง   ผู้ที่ชอบอวดอ้างตัวเองว่า    เป็นผู้เก่งกล้าสามารถ
                        ภาพถัดมา   เป็นภาพ   หาบช้าง   ซาแมว   หมายถึงบุญกับบาป   กระทำดีจะได้บุญซึ่งจะมาน้ำหนักมากกว่าคนทำบาปจะได้น้ำหนักน้อย